มุมมองและความคิดของคนไทยที่มีต่อ Line 

         สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงมุมมองและความคิดของคนไทยที่มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE มาใช้งานว่าหลังจากที่มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE มาใช้งานแล้ว

มีมุมมองและมีความคิดเห็นเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น LINE อย่างไรบ้างซึ่งเราสามารถดูได้จากการที่ LINE เปิดตัวลูกเล่นสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นทำให้แบรนด์ต่างๆเริ่มให้ความสนใจที่ต้องการจะมีสติ๊กเกอร์เป็นของตนเองซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าในสติ๊กเกอร์ไลน์นั้นจะมีสติ๊กเกอร์ซึ่งเป็นโลโก้ของแบรนด์ต่างๆเช่น AISหรือแม้แต่ Dtac

นอกจากนี้ยังมี Toyota และ ธนาคารต่างๆเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเตรียมที่จะทำสัญญากับแบรนด์อื่นๆอีกหลายแบรนด์ที่ต้องการที่จะสร้างสติ๊กเกอร์เพื่อโปรโมทแบรนด์ของตนเอง

        อย่างไรก็ตามได้มีการทำแบบสำรวจมุมมองเกี่ยวกับเรื่องของความคิดเห็นต่อคนไทยที่มีการใช้งานผ่านทางแอพพลิเคชั่น LINE ซึ่งมีคนให้ความสนใจในการตอบแบบสอบถามผ่านทางระบบออนไลน์ว่าเกือบ 3 ใน 4 ของคนไทยนั้นรู้จัก Application เป็นอย่างดีและ มีการดาวน์โหลด Application LINE มาใช้งานอยู่แล้ว

โดยกลุ่มที่ใช้งานส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ระหว่างอายุ 12-55 ปี

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีคนรู้จัก Application LINE และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE ไว้ที่ตัวเครื่องแต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ไม่มีการใช้งาน Application LINE เช่นเดียวกันซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นคนแก่ที่ไม่ค่อยใช้งาน Application ต่างๆนั่นเอง

           สำหรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานนั้นคนไทยส่วนใหญ่มองว่า Application นี้สามารถใช้งานได้และเป็น Application ที่สามารถติดต่อสื่อสารหากันได้เพราะคนไทยส่วนใหญ่มักจะดาวน์โหลด Application LINE มาใช้งานในการใช้สนทนากันซึ่งก่อนหน้า Application LINE ก็มี Application WhatsApp

ซึ่งเป็นการสนทนากันผ่านทางข้อความเช่นเดียวกันแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับ Application LINE ดังนั้นปัจจุบัน Application WhatsApp จึงแทบจะไม่มีใครใช้งานและทุกคนในประเทศไทยนั้นหันมาใช้งาน Application LINE เพราะใช้งานง่ายและสามารถทำได้หลายอย่างใน Application เดียว

        นอกจากนี้ Application LINE ยังสามารถทำอย่างอื่นๆได้อย่างเช่นการส่งข้อมูลข่าวสารหากันรวมถึงการโปรโมทสินค้าและบริการรวมถึงชักชวนให้คนอื่นมาทำกิจกรรมร่วมกันซึ่ง Application LINE นั้นสามารถสร้างเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันและสนทนากันได้

ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เองที่ทำให้คนไทยมีความรู้สึกดีต่อการใช้ Application LINE จึงพากันดาวน์โหลด Application LINE มาทำการใช้งานดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าจากคนไทยทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้อาจจะมีเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่ไม่มีการรู้จัก Application LINE และไม่ได้มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE มาใช้งาน 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    ufabet เว็บแม่

คลื่นความร้อนสังหารปลาแซลมอน

มีเหตุการณ์หรือว่าสถานการณ์ต่างๆมากมายที่โลกกำลังเตือน คลื่นความร้อน เพราะว่าเรานั้นควรที่จะรีบแก้ไขก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสายเกินไป ในปัจจุบันนี้ที่ได้มีการนำเทคโนโลยี  เข้ามาใช้แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าหากว่าเราไม่ดูสิ่งรอบข้างเลยโดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม 

สิ่งนั้นแหละถ้าหากว่ามันเกิดหายนะขึ้นมาเราจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ทัน  เช่นเรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้นั้นมันเป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเตือนว่า  เราควรที่จะรีบแก้ไขและหาวิธีทางป้องกันให้ดีเพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความร้อนสังหารปลาแซลมอนนั้นเอง

โลกของเราที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  สำหรับในยุคปัจจุบันนี้ทำให้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมามากมายแล้วก็เป็นสาเหตุให้หลายสิ่งหลายอย่าง  ที่อยู่บนโลกของเรามาก่อนสูญสลายหายไปด้วยเช่นเดียวกันสำหรับเรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้  มันเป็นเหตุการณ์ที่โลกกำลังเตือนว่าเราควรที่จะรีบแก้ไขก่อนที่มันจะสายเกินไป  ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีคศ 2019

ที่ผ่านมามีรายงานจากชุมชนรัฐอลาสก้า ว่ามีปลาแซลมอนลอยตายในแม่น้ำอยู่เป็นจำนวนมาก  นักวิทยาศาสตร์จึงเข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่า ในแม่น้ำโคโยคุ มีปลาแซลมอนหลายสายพันธุ์ตายเป็นจำนวนมากในระยะทาง      200 ไมล์ เท่าที่นับได้มีจำนวน 850 ตัว แต่คาดว่าตัวเลขปลาตายทั้งหมดน่าจะมากกว่านี้ 4 ถึง 8 เท่าชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านปลาแซลมอน 

และคณะนักวิทยาศาสตร์  เข้าตรวจสอบหาร่องรอยสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต  เช่น พยาธิ และการติดเชื้อ   แต่ก็ไม่พบอะไร  เมื่อผ่าซากปลาแซลมอนดู  ก็พบว่าส่วนใหญ่ยังสมบูรณ์  ดังนั้น  จึงเป็นไปได้ว่าปรากฏการณ์คลื่นความร้อน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาตาย  พร้อมทั้งบอกว่าตลอดการทำงานที่เป็นนักวิทยาศาสตร์มา 8 ปี ไม่เคยพบเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน  ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์องค์กรอนุรักษ์ปากแม่น้ำโคโยคุ กล่าวว่าอุณหภูมิในน้ำสูงขึ้น 

จนทำลายสถิติเช่นเดียวกับอุณหภูมิในอากาศโดยอุณหภูมิในน้ำปีนี้สูงถึง 24. องศาเซลเซียสและเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา  ปากแม่น้ำโคโยคุ          วัดอุณหภูมิได้ถึง 27.6 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิน้ำที่อุ่นขึ้น  ส่งผลต่อปลาแซลมอนหลายประเภท ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำที่มันอยู่อาศัย ในทางกายภาพมันจะไม่มีออกซิเจนไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายได้มากพอ 

ในบางพื้นที่มันจะไม่มีพลังงานในการวางไข่   หรืออาจไม่มีเรี่ยวแรงที่จะวางไข่  ปลาหลายขนิดที่มีไข่เต็มท้องจึงเป็นที่น่ากังวลว่า ประชากรปลาแซลมอนจะตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้การตายของปลาแซลมอนอาจจะส่งผลต่อประชากรของหมีที่ว่ามันเป็นอาหารอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บแม่