4 ดาวฤกษ์สุดแปลกที่ คุณอาจไม่เคยรู้จัก

ดาวฤกษ์สุดแปลกที่  ดาวรูปไข่ปกติแล้วเราจะคุ้นชินกับดาวที่มีลักษณะเป็นทรงกลมแต่นี่ก็ได้ที่แตกต่างออกไปมันเป็นดาวที่มีชื่อว่าเวก้าอยู่ห่างจากโลกของเรา 25 ปี

แสงเหมือนมีความแปลกจากการที่เป็นดาวรูปวงรีซึ่งจากการศึกษาก็พบว่ามันเป็นดาวที่หมุนรอบตัวเองเร็วมากๆจนทำให้มันมี ลักษณะเป็นรูปวงรีโดยหมุน 1 รอบใช้เวลาประมาณ 12.5 ชั่วโมงเท่านั้น

ในขณะที่ดวงอาทิตย์ของเราใช้เวลา 27 วันความเร็วของเจ้าดาวเวก้านี้มันอยู่ที่ระดับ 93 เปอร์เซ็นต์ของ Crittcal rotation คือความเร็วสูงสุดที่ประเมินจากคุณลักษณะของดาวแต่ละดวงและหาข้อมูลเร็วมากกว่านี้ดาวดวงนั้นก็จะไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้

      ดาวฤกษ์คุุ่กัน  สำหรับดาวคู่ที่อยู่ใกล้กันมากนั้นค้นพบในช่วงประมาณ  2014 ได้มีการเปิดเผยการค้นพบที่น่าสนใจในกลุ่มดาวยีราฟมีการค้นพบระบบดาวคู่หนึ่งที่ดาวฤกษ์ทั้ง 2 ดวงนั้นอยู่ใกล้กันมาก จนทำให้พวกมันโคจรครบหนึ่งรอบเทียบได้กับ 1.2 วันบนโลกเท่านั้นซึ่งดาวคู่นี้ดวงใหญ่นั้นมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 38 เท่าส่วนอีกดวงที่เล็กกว่าอะตอมมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 32 เท่า

         ซึ่งจากการศึกษายังพบอีกว่าต่อไปในภายภาคหน้าจะเอาทั้งสองนี้จะเข้าใกล้กันมากเรื่อยๆจนเกิดการรวมตัวกันในที่สุดและอาจนำไปสู่การกำเนิดดาวฤกษ์ดวงใหม่ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 60 เท่ากันเลยทีเดียว  

          ดาวฤกษ์ที่มีเกรียวแขน ทั่วไปแล้วเราจะกินเพียบแค้นและตามภาพของกาแล็กซีต่างๆ  ซึ่งเราแทบจะไม่เคยคิดเลยว่าดาวฤกษ์นั้นก็มีเกรียวแขนได้เหมือนกัน

โดยมันเป็นดาวที่มีชื่อว่า SAO 206462 ที่อยู่ห่างจากโลกของเรา 460 ปีแสงซึ่งจะเกี่ยวแขนที่ว่านี้มันประกอบด้วยฝุ่นและก๊าซมีความกว้างมากกว่าวงโคจรของดาวพลูโตถึง 2  เท่าและนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ว่าภายในเซลล์แขนที่ว่านี้อาจจะกำลังมีการก่อตัวของดาวเคราะห์อยู่ก็เป็นได้

            ดาวฤกษ์ที่ไม่ร้อน อย่างที่เราทราบกันดีว่าดาวฤกษ์นั้นมีอุณหภูมิที่สูงมากๆอย่างเช่นดวงอาทิตย์ของเราจะมีอุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ราว 5500  องศาเซลเซียส  แต่ทว่ามีดาวดวงหนึ่งในระบบดาวคู่ที่อยู่ห่างจากโลก 75 ปีแสงจันทร์เป็นดาวที่เราไม่อาจเรียกว่าเป็นดาวฤกษ์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดของมันไม่ใหญ่พอที่จะเรียกว่าดาวฤกษ์

แต่ก็ใหญ่เกินไปที่จะเรียกว่าเป็นดาวเคราะห์มันจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มของดาวแคระสีน้ำตาลซึ่งความพิเศษของดาวดวงนี้อาการที่มันมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียสหรือเทียบเท่าได้กับจุดเดือดของน้ำเท่านั้นจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์มองเป็นเรื่องความเป็นไปได้อย่างหนึ่งว่าอาจจะมีกลุ่มเมฆหรือไอน้ำอยู่บนดาวดวงเด่นได้

 

สนับสนุนโดย      gclubเครดิตฟรี50